Search

คอลัมน์ผู้หญิง - สารเร่งเนื้อแดงกับการเลือกซื้อเนื้อสุกร - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

seridapura.blogspot.com

ในปัจจุบัน พฤติกรรมการบริโภคของคนยุคใหม่ จะให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะจากสถานการณ์ COVID-19 ก็ทำให้หลายครอบครัว หันมาปรุงอาหารรับประทานเอง ทั้งสำหรับครอบครัวและของสัตว์เลี้ยง ซึ่งในการปรุงอาหารเองนั้นเราสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่สะอาด ถูกสุขอนามัย จากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ปลอดภัยจากการปนเปื้อน เชื้อโรค และสารตกค้างต่างๆ

“เนื้อหมู” ถือเป็นแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่คนไทยนิยมใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงเป็นอาหารนานาชนิด แต่กระนั้น ข่าวลวงที่เผยแพร่กันในโลกโซเชียล ก็ทำให้หลายคนวิตกว่า เนื้อหมูที่เราบริโภคกันจะมี “สารอันตราย” ปนเปื้อนต่างๆ เจือปนหรือไม่ รวมถึงจะมีโรคภัยแฝงมาสู่ร่างกายหรือไม่


สำหรับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์นั้น ต้องถือเป็นความโชคดีอย่างมากที่มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้ามากำกับดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการยกระดับคุณภาพการผลิตเนื้อสุกร ปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากลอีกด้วย

สำหรับสารปนเปื้อนที่หลายคนกลัวกันว่าจะพบในเนื้อสุกร ก็ได้แก่ “สารเร่งเนื้อแดง” ซึ่งเป็นสารกลุ่ม “เบต้าอะโกนิสต์” ที่จัดเป็นสารอันตรายตาม “ประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พ.ศ.2545” และ “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2546” ที่ห้ามมิให้ใช้ในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ “อย่างเด็ดขาด” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของทางสหภาพยุโรป (EU) และอีกหลายประเทศ ได้แก่ รัสเซียและจีน ที่มีการห้ามการใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านอาหารแก่ประชากรอย่างเต็มที่

สารเร่งเนื้อแดง ในกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ ถือเป็น “ยา” ที่มีใช้ในทางการแพทย์ มีฤทธิ์ในการขยายหลอดลมสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดและหลอดลมอักเสบ ซึ่งหากสารเบต้าอะโกนิสต์ถูกนำไปผสมในอาหารสำหรับเลี้ยงสุกร เพื่อเป็นสารเร่งเนื้อแดงแล้ว ก็จะกระตุ้นให้มีการใช้พลังงานจากไขมัน ลดการสะสมของไขมัน เพิ่มการสะสมโปรตีนในกล้ามเนื้อ เพื่อให้มีเนื้อแดงเพิ่มขึ้น มองดูเผินๆ แล้วเหมือนเป็นเรื่องดี แต่ย้ำว่า มีอันตรายต่อสุขภาพของทั้งคนและสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมากครับ หากผู้บริโภค (โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว) รับประทานเนื้อหมูที่ปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงแล้ว อาจเกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติ นอนไม่หลับ คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะเป็นอันตรายโดยตรงต่อสตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจเต้นผิดปกติ

สารกลุ่มนี้ มีคุณสมบัติที่ทนต่อความร้อน ทั้งน้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส และน้ำมันที่ 260 องศาเซลเซียส ดังนั้น “การต้มการอบ การทอด หรือการใช้เตาไมโครเวฟ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสารกลุ่มนี้ได้”

อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเลี้ยงสุกรในประเทศไทยในปัจจุบันนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ว่า ไม่น่ามีการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง เพราะเป็นเรื่องที่ “ผิดกฎหมายและมีโทษค่อนข้างสูง” หากพบการกระทำความผิดฝ่าฝืนใช้จะมีโทษหนัก ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย

หลายท่านคงมีคำถามขึ้นในใจอีกว่า แล้วการบริโภคอย่างไรจึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพล่ะ?

นอกจากผู้บริโภค ยุคนี้ต้องรู้เท่าทันอันตรายของสารเร่งเนื้อแดงแล้ว ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่างๆ ผู้บริโภคก็ควรใส่ใจเลือกหาเนื้อหมูที่มีคุณภาพ สะอาด จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อนำมาประกอบอาหาร ซึ่งมีข้อแนะนำเบื้องต้นในการเลือกซื้อเนื้อหมูดังนี้

ประการแรก ผู้บริโภคจะต้องสังเกตที่ “สีของเนื้อ” เนื้อหมูที่ดี จะมีสีตามธรรมชาติ คือ ชมพูเรื่อๆ เนื้อแน่น นุ่ม วาวเป็นมัน ไม่กระด้าง เมื่อตัดชิ้นเนื้อสัตว์เป็นแนวขวางจะเห็นไขมันแทรกระหว่างชิ้นส่วนบริเวณกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน ส่วนเนื้อหมูสามชั้นนั้นจะต้องมีสัดส่วนของมันหมู 1 ส่วนต่อเนื้อแดง 2 ส่วน

หากเนื้อหมูมี “สีแดงเข้มสดเกินไป” เนื้อที่ “แห้ง” กว่าปกติ มีความ “ด้านและกระด้าง” สามารถพิจารณาเบื้องต้นได้ว่า เนื้อหมูนั้น “อาจ” ผ่านการเลี้ยงโดยมีการใช้สารเร่งเนื้อแดงได้

แต่อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคอาจจะไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงกับหมูที่ปลอดสารเร่งเนื้อแดงได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเลือกซื้อเนื้อสุกรสำหรับประกอบอาหาร ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หมูสด “จากผู้ประกอบการ หรือจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้” และ “ได้รับการรับรองผ่านมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์” ซึ่งผู้ซื้อสามารถสังเกตจากตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK”ที่จุดจำหน่าย ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อไปนั้น “ปลอดสารเร่งเนื้อแดง และปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ รวมถึงสารตกค้างต่างๆ“

นอกจากที่ผู้บริโภคจะต้องให้ความสำคัญกับการเลือกซื้ออาหารหรือวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยแล้ว ผู้บริโภคก็ต้องใส่ใจในขั้นตอนการเตรียม การปรุง และการเก็บรักษาอาหารอีกด้วย และที่สำคัญอย่าลืมยึดหลักสากลง่ายๆ ในการดูแลตัวเอง คือ “กินอาหารร้อนใช้ช้อนตัวเอง และครื้นเครงกับการล้างมือ” ก่อนรับประทานอาหารทุกครั้งเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ในการดำเนินชีวิตตามวิถีการดำเนินชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal ได้อย่างมีความสุขครับ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Let's block ads! (Why?)




August 02, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/3foPywx

คอลัมน์ผู้หญิง - สารเร่งเนื้อแดงกับการเลือกซื้อเนื้อสุกร - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://ift.tt/2MtBO7Q


Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์ผู้หญิง - สารเร่งเนื้อแดงกับการเลือกซื้อเนื้อสุกร - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.